เด็กเกรียนเนียนเลย - เด็กเกรียนเนียนเลย นิยาย เด็กเกรียนเนียนเลย : Dek-D.com - Writer

    เด็กเกรียนเนียนเลย

    ผมจะอยู่กับคุณ ว่าเเต่คุณชื่ออะไรนะ?

    ผู้เข้าชมรวม

    96

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    96

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 พ.ค. 59 / 12:34 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
                       สวัส...ดีครับ ผมชื่อโอเลี้ยง  ผมเป็นคนโคราช แต่เกิดที่จังหวัดนครปฐม ผมชอบกินเจลลี่ปีโป้มากที่สุดมันหวานเเละเด้งยืดหยุยๆ  ผมชอบกินเจลลี่ปีโป้ตั้งเเต่เด็กจึงทำให้ผมอ้วนและที่สำคัญมันทำให้ผมตัวดำ.. หืม.. ผมว่าตัวดำไม่เกี่ยวกับเจลลี่ปีโป้!   ผมจบจากโรงเรียนระดับประถมที่นครปฐม ย้ายมาอยู่โคราชสามปี เเละย้ายจากโคราชไปกรุงเทพ เจ็ดปี ผมเรียนจบปริญญาตรี เอกรัฐศาสตร์ คณะสังคม และย้ายกลับมาอยู่นครปฐมเหมือนเดิม ผมจากบ้านเกิดไปสิบปีกลับมาอยู่ที่เดิม..จุดเดิม..เเต่มันก็เปลี่ยนไปมากทั้งสังคมและที่สำคัญผู้หญิงที่ผมแอบชอบตั้งเเต่ตอนเด็กๆ..^-^

                  ....แต่ตอนนี้หลายสิ่งมันก็เปลี่ยนไปแล้วมันเปลี่ยนไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติเเละกาลเวลา ทุกคนแต่งงานกันหมดเเล้วตามวัยและอารมณ์ที่แปรปรวน ผมมองเพื่อนๆที่เคยเล่นกันตั้งแต่เด็กพวกเพื่อนๆไม่สนใจผมเหมือนแต่ก่อนแล้ว  ทักกันก็แค่ว่าเป็นไงบ้าง สบายดีไหม อยู่นี่นานไหมทำงานอะไร เงินเดือนเท่าไหร่ เรียนจบอะไรมา สิ่งที่ผมจินตนาการนั้นก่อนจะกลับมามันก็พังลงไปแล้ว ก่อนจะมาผมคิดว่าโลกมันอาจจะสวยงามโรยด้วยดอกกุหลาบและท้ายที่สุดอาจจะได้เเต่งงานกับเด็กผู้หญิงที่แอบชอบมาตั้งเเต่เป็นเด็ก  สุดท้ายมันก็แป็ก! 

                    ....หากเขายังไม่เเต่งงานก็ใช่ว่าเขาจะชอบเรา เพราะสารรูปเราตอนนี้ทั้งอ้วนทั้งดำ แถมเหงื่ออกก็เหม็นกลิ่นตัว แถมโลกสวย   แบบว่าอะไรที่เห็นก็ฟรุ๊งฟริ๊งไปหมด^-^

                   ....วันหนึ่งผมเห็นดาราหญิงอายุเท่าผมนั่งกินข้าวอยู่ร้านกับข้าวข้างทาง ที่ผมกินอยู่เป็นประจำตอนกลับบ้านจากการตระเวนหางาน เธอน่ารักและเป็นที่น่าสนใจมากสำหรับคนแถวนั้น แหม! ก็ดาราทั้งคน เนอะ ทุกคนเข้าไปพูดเข้าไปถามเธอ และเธอไม่ถือตัวเลยแถมกิน กับข้าวก็ธรรมดาๆคะน้าหมูกรอบกับน้ำปล่าวหนึ่งเเก้ว ผมนั่งหันหลังให้เธอและรีบเดินออกไปจากที่นั้นอย่างเร็วเพราะตอนนั้นเหงื่อผมออกเยอะเเถมกลิ่นตัวก็สุดๆ! 

                   ....ผมออกมายังไม่ได้เท่าไหร่เลยเสียงเเว่วก็มาละ " เออ ออกไปได้สักทีกลิ่นตัวเเรงมากเลยไอนั่น ไม่รู้อาบน้ำบ้างหรือปล่าว" ผมชะเง้อหน้าหันหลังไปแปปนึง เห็นเธอมองมาที่ผมและมันทำให้ผมอายมากจนผมไม่กลับไปกินข้าวร้านนั้นอีกเลย  

                   ....วันหนึ่งผมไปซื้ออาหารแมวผมเลือกอยู่นานเพราะที่บ้านเลี้ยงเเมวหลายตัวบางตัวไม่กินอาหารยี่ห้อนี้บางตัวก็กินอาหารยี่ห้อนั้นสรุปแมวบ้านผมแมร่งกินอาหารตัวละยี่ห้อและผมก็ไปเจอเธออีกครั้งที่นั่นเธอมองมาที่ผมและทำหน้างงเหมือนกำลังคิดว่าเคยเห็นผมที่ไหนก่อนหน้านี้และวันนั้นเหงื่อผมออกมากเช่นเดิม คนที่อยู่ในร้านปิดจมูกเเละส่งสายตาพิฆาตรให้ผมเเต่เธอไม่ เธอไม่รังเกียจเลยแม้แต่น้อย ผมรีบเดินออกจากร้านทันที วันนั้นผมคลุกข้าวให้แมวกับปลากระป๊องแทน และนอนกุมขมับ พูดกับตัวเองว่าเราต้องเปลี่ยนตัวเองให้ได้ จนในที่สุดผมตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวเองซึ่งมันเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากเพราะการเปลี่ยนตัวเองมันยาก เพราะ ต้องเปลี่ยนการกินและออกกำลังกายเป็นประจำ

                   
                           .     ....ผมใช้เวลาเปลี่ยนตัวเองถึง 3-4 เดือน จนในที่สุดมันก็เป็นไปตามที่คาดกลิ่นตัวผมนั้นหายไปอย่างสิ้นเชิง น้ำหนักลด20โล จาก85 เหลือ 65 โล ผมกลายเป็นคนใหม่เลยตั้งเเต่นั้น เเละผมก็ได้งานด้วยจากตกงานมาเกือบ5เดือน ผมทำงานถ่ายภาพลงปกนิตยาสารสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมันไม่ตรงกับสิ่งที่ผมเรียนเเละจบมา แต่แค่เอาบางอย่างที่เรียนมาประยุกต์ใช้กับความสามารถที่มีก็เลยได้ทำงานสายนี้
                   ....ผมได้ภารกิจให้ไปถ่ายภาพสถานที่ที่มีต้นไม้ ลำธาร ท้องฟ้า ซึ่งได้มางงๆ และก็รับมาแบบงงๆ กลับมาจากรับภารกิจก็เก็บของเดินทางไปนู่นนี่เก็บภาพต่างๆนาๆตามสถานที่ท่องเที่ยวดังๆเเต่มันก็ยังออกมาไม่เป๊ะ ยังไม่ตรงกับภาพที่เราต้องการ ผมเริ่มเหนื่อยเเละเบื่อมากจึงเเวะพักที่หมู่บ้านเล็กๆในเชียงรายผมเข้าไปขอเขาพักที่บ้านโดยบอกว่าจะขอพักและก็ช่วยเขาทำงานผ่าฝืน แบกน้ำจากห้วยมาเติมที่โอ่งเก็บน้ำ ทำงานเสร็จเเล้วผมก็ออกมาถ่ายรูปตอนกลางคืนซึ่งได้ภาพที่ดีหลายภาพ และมันก็ทำให้ผมสบายใจมากเพราะบรรยากาศดีแถมสมาถะเเบบเงียบด้วยวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบ้าน

               ....ตื่นเช้าล้างหน้าแปรงฟัน เดินออกมาเห็นคนในหมู่บ้านจัดงานประจำปีผมเข้าไปเก็บภาพบรรยากาศในงานและในตอนนั้นเองผมได้พบเธออีกครั้ง เธอที่เป็นดั่งนางฟ้าทูลหัวของผมใจสั่นทุกครั้งที่ได้พบ เธอทำงานอีกอย่างคือเป็นนักสังคมสงเคราะห์เอาของมาบริจาคเด็กพวกสมุดและเสื้อผ้า ผมเข้าไปถ่ายภาพเธอด้วยความหน้าด้านเเต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ผมเข้าไปทักเธอเเละพูดคุยถามไถ่แบบคนทั่วไปเธอพูดกับผมและบอกว่าจำผมได้ ซึ่งมันทำให้ผมอายมาก จนทำให้เธอยิ้มและรอยยิ้มนั้นเองที่ทำให้ผมวาบหวิวผมแทบทรงตัวไว้ไม่อยู่  เธอแจกของเเละพูดคุยกับเด็กๆแล้วจากนั้นก็จะกลับผมเห็นเธอมาคนเดียวเลยจะอาสามาส่ง เธอบอกว่าไม่เป็นไรเดี๊ยวแฟนจะมารับ ผมใจสลายที่เธอบอกว่าแฟนจะมารับผมมองสารรูปตัวเองและบอกว่าเราต้องเจียมตัวบ้างนะจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว  ผมคุยกับเธอสักพักแฟนเธอก็ขับรถมารับ หน้าตาดีแถมหุ่นสมารทเหมือนผมด้วยฮ่าๆๆๆแต่ต่างกันตรงที่เวลาและฐานะ พวกเขารักกันมากเพราะคบกันมาตั้งเเต่เด็กผมรู้สึกอิจฉาแฟนเธอมากนึกในใจว่าคนนั้นน่าจะเป็นเราที่ได้พาเธอไปส่งที่บ้าน พาไปกินข้าว พาไปหาหมอตอนไม่สบาย
                   ....อาชีพนักแสดงนั้นต้องเจอกับเรื่องที่ลำบากและในบางครั้งก็ต้องใช้มารยามาแสดงด้วยในชีวิตจริงเพื่อตบตาและเล่นละครให้สมบทบาทกับฐานะและหน้าตาในบางครั้งต้องสร้างภาพตลอดเวลาเพื่อสังคมและคนรอบข้าง เธอที่ผมรู้จักนั้นก็เป็นนักแสดงผมขอเรียกเธอว่าฟ้า เพราะมันอยู่สูงจนผมนั้นไม่อาจจะเอื้อมถึง วันนึงมีข่าวเกี่ยวกับฟ้าเรื่องการสร้างภาพเล่นละครตบตาแฟนคลับ และอาหารที่เคยเเจกไปแก่เด็กๆมีพิษจนทำให้เด็กเสียชีวิตผมรู้เเล้วตกใจมากผมจึงคิดว่าเออมันก็คงจะใช่แหละเพราะเขาอาจจะอยากสร้างภาพเพื่อผลงาน   
                   ....ผมเริ่มเก็บออมเริ่มทำทุกอย่างเพื่อหาเงินเพราะต้องเก็บไว้ทำธุรกิจและต่อยอดผมได้ภารกิจให้ถ่ายภาพอีกครั้งโดยมีชื่อว่า "The Poison Of Wing"  ผมบอกว่ามันยากไปเพราะต้องมีลูกทีมอย่างน้อยหนึ่งคนและผมชอบทำงานคนเดียว เจ้านายผมขอร้องเพราะทุกคนรับงานไปหมดแล้วเหลือผมที่ยังไม่ได้รับเเละงานชิ้นนี้เป็นชิ้นสุดท้ายของปีเเละจะเริ่มงานใหม่อีก3เดือน ผมจึงต้องรับงานไว้และหาลูกทีมมาช่วยเเต่ทุกคนหันหลังให้ผมกันหมดเพราะต้องรีบส่งเเละไปพักร้อนกันยาวๆ ซึ่งจุดๆนี้มันเหมือนกับตอนที่ผมโดนด่าว่าตัวเหม็นเเล้วก็วิ่งออกมาจากร้านก๊วยเตี๊ยวในตอนนั้นเปี๊ยบเพราะทุกคนกลัวผมขอร้องให้ช่วยและสีหน้าไม่พอใจตอนที่ผมเดินป้วนเปี้ยนรอบโต๊ะทำงาน 

                   ....ผมรีบเดินออกจากออฟฟิสทันที ผมกลับบ้านรีบเเพ็คของมุ่งขึ้นเหนือไปเก็บภาพที่หมู่บ้านที่ผมไปขอเขาพัก และจากนั้นก็ร่องรถลงมาเรื่อยๆจากเชียงรายจนถึงหัวหินและลงไปต่อจนสุดขอบด้ามขวานที่นราธิวาส งานชิ้นนี้มันเป็นชิ้นที่ผมไม่พอใจที่สุดและเป็นชิ้นที่ทำให้ผมแฮปปี้ที่สุดเพราะทำให้ผมเจออะไรใหม่ๆมากมายและทำให้ผมเจอกับฟ้าอีกครั้ง ที่โรงเรียนเเห่งหนึ่ง วันนั้นดึกมากผมจึงเเวะมาพักที่โรงเรียนประถมแถมฝนตกรองเท้าก็เปียกเสื้อผ้าก็เเฉะจนมีกลิ่นเหม็นคนที่อยู่ในโรงเรียนก็บอกให้ผมอาบน้ำและไปกินข้าวกับพวกเขา พอผมเดินเข้าห้องน้ำเสียงเเว่วก็มาเลย " ไอหนุ่มนี่คงจะซกมกหน้าดู หน้าตาก็ดีหุ่นก็ดีนะแต่ซกมกแบบนี้ก็ไม่ไหวหรอก " ผมได้ยินรู้สึกอายมากๆ จริงๆก็ไม่ได้ตั้งใจให้เหม็นหรอกแต่เดินตากฝนมาตั้งคลึ่งชั่วโมงเเล้วมาถึงที่โรงเรียนมันก็เหม็นเพราะบรรยากาศมันชื้น 

                   ....ผมเเต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็มากินข้าวและมาเจอกับฟ้าอีกครั้งที่นี่เธอมาเป็นครูอาสาจนทำให้เธอเลิกกับแฟนเพราะฟ้าไม่ค่อยมีเวลาให้กับเขามากนักแถมฟ้าไม่รับงานแสดงนานแล้วผมจึงรู้สึกผิดที่คิดว่าฟ้าเป็นคนแบบนั้น  ผมจึงอยู่ดูฟ้าทำงานเเละเก็บภาพฟ้าทุกครั้งตอนสอนผมอยู่ที่นั่นนานเกือบ1เดือนจนเจ้านายท้วงเรื่องงานผมจึงขออยู่อีก2วันจากนั้นก็จะกลับ   ตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ที่นั่นผมได้สาระภาพรักฟ้าไปแล้ว   เธอหัวเราะเมื่อรู้ว่าผมเรียกเธอว่าฟ้าเเละผมก็รู้ว่าจริงๆเธอชื่อว่าอะไรแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ขอเรียกเธอว่าฟ้าอยู่เช่นเดิม แต่ถึงอย่างนั้นฟ้าก็ไม่เคยทำท่าทีชอบผมเลยเธอทำ  เธอพูดกับผมเหมือนเพื่อนทั่วไปที่เธอพูดไม่มีโมเม้นอื่นที่พิเศษอะไรต่างจากนี้และผมเข้าใจดี  แต่ผมก็อุ่นใจที่ได้เจอฟ้ามีผู้ชายหลายคนที่มาจีบแต่ฟ้าก็ก็ทำท่าทางเป็นกันเองเหมือนเพื่อนไม่มีอะไรอื่นเลยเหมือนกับเธอเก็บอารมณ์บางอย่างไว้คนเดียว

                   ....วันที่สองก็มาถึง ผมรีบเก็บของกลับทันทีเพื่อเอางานไปส่งผมบอกฟ้าว่ากลับเเล้วเดี๊ยวจะมาใหม่เธอบอกว่าไม่ต้องรีบที่นี่ไม่หนีไปไหนหรอก ผมรีบตีตั๊วกลับไป  นั่งรถ 10 กว่าชัวโมง จากนั้นก็ส่งงานเจ้านายโดนเจ้านายด่านิดหน่อยและให้งานมาแก้ โดยให้ผมไปหานางเเบบมาถ่ายให้ได้  คืองานผมโดนแก้ใหม่หมดถ้าจะใช้เวลาก็ประมาณเกือบๆเดือน ผมคิดถึงฟ้ามากจึงใช้ความมักง่ายโดยการที่เอารูปฟ้าไปส่งเจ้านายแทนเเถมไม่ได้ขออนุญาติจากฟ้าก่อนเลย และมันก็เป็นไปตามคาดเจ้านายผมถูกใจมากและเอารูปฟ้าลงนิตยาสารท่องเที่ยวทันที ผลปรากฎคือเรทติ้งพุ่งกระฉูทเรียกชื่อเสียงฟ้ากลับมาอีกครั้งแฟนคลับเขียนถามหาฟ้ากันให้ควัก ไม่น่าเชื่อว่าภาพของฟ้าที่ผมถ่ายนั้นกลับเรียกชื่อเสียงฟ้าได้อย่างท่วมท้น  

                   ....เเละในที่สุดฟ้าก็ได้รู้ความจริงเธอไม่ว่าอะไรผมและก็ไม่ได้ดีใจด้วยที่ชื่อเสียงเธอกลับมาอีกครั้งเธอกลับใช้ชีวิตแบบปกติแบบเดิม  จากคนที่ผมรักตอนนี้กลายเป็นเพื่อนที่เเสนดีผมไม่ต้องการเเล้วคนรักผมต้องการคนดี ผมทำงานได้เงินจากการถ่ายภาพจากฟ้าตลอดและมันก็ทำให้ชื่อเสียงผมดังไปด้วย ผมได้รางวัลของรางวัลช่างภาพมืออาชีพผมได้เงินมาก็นำมาให้ฟ้าเพราะเงินทั้งหมดที่ได้นอกเหนือจากเงินเดือนผม  คือเงินที่ได้จากการถ่ายภาพของฟ้าและมันมากพอที่จะสร้างโรงพยาบาลเล็กๆหรือคลีนิคได้  และมันก็เป็นไปตามคาดฟ้านำเงินไปสร้างคลีนิค ประจำหมู่บ้าน และช่วยชาบ้านให้ไม่ว่างงานโดยการทำโคลงการหนึ่งคนหนึ่งไอเดีย เป็นโครงการที่ทุกคนเสนอและถ้าไม่เวิร์คก็ค่อยๆพัฒนาจนชาวบ้านเริ่มมีเงินหมุนเวียน

                   ....และเรื่องที่ไม่ควรเกิดมันก็เกิดขึ้น  ฟ้าโดนรอบสังหารจากกลุ่มก่อความไม่สงบเธอโดนยิงที่หัวกระสุนฝังคากระโหลกผ่าตัดออกไม่ได้เพราะมันอันตรายเกินไปฟ้ารักษาตัวอยู่จนหายแต่ว่าฟ้าก็ยังพูดได้คุยได้เเบบปกติ เเต่จะหลีกเลี่ยงการเดินและการสั่นสะเทือนผมใช้เวลาที่ฟ้ายังคุยได้อยู่กับฟ้าตลอดนั่งเป็นเพื่อนเธอคุยกับเธอ เเละไม่กี่วันในที่สุดเธอก็จากผมไป ก่อนเธอจะเสียเธอเคยให้ผมเรียกชื่อเล่น เเต่มันสายเกินไปแล้วเพราะเธอคนนั้นจากไปแล้วและอีกนานกว่าจะได้เจอกันผมจึงสัญญาว่าผมคนนี้ขอดูเเลฟ้าและเป็นคู่รักของฟ้าจริงๆไม่ใช่ตัวสำรองและถ้าหากชาติหน้ามีจริงก็ขอให้ผมสมหวัง

            "The words mean nothing without someone to say"

                    

     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×